บริษัทวิจัยบล็อกเชน ‘ฟอร์พิลลาร์ส(Four Pillars)’ เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า ‘วอลรัส(Walrus)’ โปรโตคอลสตอเรจแบบกระจายศูนย์ของ ‘มิสเทนแล็บส์(Mysten Labs)’ สามารถระดมทุนได้สำเร็จมูลค่า 140 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) โดยมี ‘สแตนดาร์ดคริปโต(Standard Crypto)’, ‘อันเดรสเซน โฮโรวิทซ์(a16z crypto)’ และ ‘อิเล็กทริกแคปิทอล(Electric Capital)’ เป็นผู้นำการลงทุน สำหรับมูลค่าประเมินของวอลรัสอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 70,000 ล้านบาท)
จุดที่น่าสนใจคือ นักลงทุนสามารถถือครองโทเคนได้เพียง 7% เท่านั้น ขณะที่ 10% ของโทเคนทั้งหมดถูกจัดสรรให้กับชุมชนผ่านแอร์ดรอป กลยุทธ์เช่นนี้ชี้ให้เห็นถึงแนวทางที่มุ่งเน้นการสร้างฐานชุมชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นในตลาด
แม้เม็ดเงินลงทุนและมูลค่าประเมินของวอลรัสจะอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับโปรเจกต์บล็อกเชนทั่วไป แต่ความพิเศษคือ วอลรัสเป็นโปรโตคอลสตอเรจแบบกระจายศูนย์ที่ยังไม่ได้เปิดตัวเมนเน็ต ทว่าได้รับการประเมินมูลค่าถึงหนึ่งในสามของ ‘ไฟล์คอยน์(FIL)’ ซึ่งมีมูลค่าตลาดราว 2,000 ล้านดอลลาร์ และมูลค่าประเมินแบบเต็ม (FDV) อยู่ที่ 6,000 ล้านดอลลาร์ การประเมินเช่นนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อตลาดของวอลรัส
ตามรายงานของฟอร์พิลลาร์ส เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงสร้างการลงทุนของวอลรัสเป็นไปได้ คือศักยภาพด้านเทคโนโลยีและการบริหารโครงการอย่างอิสระของมิสเทนแล็บส์ วอลรัสสามารถพัฒนาโครงการได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนจากภายนอกมากนัก และยังคงรักษามูลค่าประเมินในระดับสูง ขณะเดียวกันก็สามารถจัดสรรโทเคนให้กับนักลงทุนในสัดส่วนที่จำกัดเพื่อลดผลกระทบต่อตลาด
วอลรัสใช้โมเดล ‘โปรโตคอลสตอเรจ’ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยใช้กลไก ‘พิสูจน์ด้วยการถือครอง (PoS)’ ซึ่งบังคับให้ผู้ดำเนินการโหนดต้องทำการสเตกโทเคน และกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข วิธีนี้ช่วยให้เครือข่ายมีความน่าเชื่อถือและป้องกันปัญหาการละเมิดสัญญาได้ นอกจากนี้ วอลรัสยังออกแบบให้ราคาสตอเรจถูกกำหนดตามกลไกตลาด ทำให้ค่าบริการมีความยุติธรรมและโปร่งใส
การระดมทุนครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทุน แต่ยังสะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาในระยะยาวของวอลรัส ฟอร์พิลลาร์สระบุว่า วอลรัสมีศักยภาพที่จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมสตอเรจแบบกระจายศูนย์ ซึ่งกำลังได้รับความสำคัญมากขึ้นในโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชน แม้ว่าไฟล์คอยน์จะยังครองตลาดอยู่ แต่แนวทางที่วอลรัสนำเสนอ ทั้งด้านเทคโนโลยีและแนวคิดในการขับเคลื่อนชุมชน อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ ความเชื่อมโยงของวอลรัสกับ ‘ซุย(Sui)’ เครือข่ายที่มิสเทนแล็บส์ดำเนินการ ซุยเคยถูกวิจารณ์เรื่องการเปิดตัวเมนเน็ตโดยไม่มีแอร์ดรอปในช่วงแรก แต่ต่อมากลับสามารถสร้างฐานผู้ใช้ได้สำเร็จจากการให้รางวัลแก่ชุมชน วอลรัสน่าจะใช้แนวทางที่คล้ายกัน โดยมุ่งเน้นการแจกจ่ายโทเคนให้กับชุมชนเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศ
สุดท้าย ความสำเร็จของวอลรัสจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการแข่งขันกับไฟล์คอยน์และโปรโตคอลสตอเรจอื่น ๆ ในตลาด เทคโนโลยีที่แตกต่างและแนวทางที่มุ่งเน้นไปยังชุมชน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินว่าวอลรัสจะกลายเป็นหนึ่งในโครงสร้างสำคัญของอุตสาหกรรมบล็อกเชนในอนาคตหรือไม่
ความคิดเห็น 0