ฟิเดลิตี(Fidelity) หนึ่งในบริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังเตรียมเปิดตัว ‘สเตเบิลคอยน์’ ที่อ้างอิงกับดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในกลยุทธ์การขยายธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ยื่นขออนุมัติ ‘ETF ของโซลานา(SOL)’ เพื่อทดสอบท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลด้านคริปโต
จากรายงานของไฟแนนเชียลไทมส์(FT) เมื่อวันที่ 25 ฟิเดลิตี วางแผนออกสเตเบิลคอยน์ผ่านทาง ‘ฟิเดลิตี ดิจิทัล แอสเซท(Fidelity Digital Assets)’ ซึ่งเป็นแผนกที่ดูแลด้านสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ แหล่งข่าววงในระบุว่าการพัฒนาสเตเบิลคอยน์ของบริษัทกำลังเข้าสู่ ‘ขั้นตอนสุดท้าย’ ซึ่งอาจหมายถึงการเปิดตัวที่ใกล้เข้ามา
ช่วงที่ผ่านมาฟิเดลิตีได้รุกคืบเข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในแผนล่าสุดคือการนำเสนอ ‘คลาสออนเชน(OnChain)’ ที่อ้างอิงกับ ‘กองทุนตลาดเงินดอลลาร์สหรัฐ’ บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ตามเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เมื่อวันที่ 21 ฟิเดลิตียื่นข้อเสนอให้กองทุน ‘Fidelity Treasury Digital Fund (FYHXX)’ สามารถตรวจสอบธุรกรรมผ่านบล็อกเชนได้ ซึ่งหากได้รับอนุมัติ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้
การยื่นขอเปิดตัว ‘โซลานา ETF’ ของฟิเดลิตีไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปิดกองทุนอีกตัวหนึ่ง แต่ยังถือเป็นบททดสอบว่าหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง SEC เปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับใด ลิงลิง จาง(Lingling Jiang) พาร์ตเนอร์จาก DWF Labs บริษัทลงทุนด้านคริปโตเชื่อว่า หาก SEC อนุมัติ ETF นี้ อาจสะท้อนถึงการยอมรับความแตกต่างของเครือข่ายบล็อกเชนแต่ละประเภท
กระแสการพัฒนาผลิตภัณฑ์คริปโตของสถาบันการเงินสหรัฐฯ ทวีความเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งของประธานาธิบดีทรัมป์ ฟิเดลิตีกลายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นรายใหญ่ที่ร่วมในกระแสนี้ ขณะที่สถาบันการเงินอื่น ๆ อย่าง Custodia และ Vantage Bank ก็กำลังผลักดัน ‘สเตเบิลคอยน์ของธนาคาร’ เพื่อเตรียมรับมือกับตลาดที่กำลังเติบโต
อีกประเด็นสำคัญที่อุตสาหกรรมกำลังจับตาคือ ‘กฎหมายกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์’ ที่อาจผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสในอีกสองเดือนข้างหน้า กฎหมายซึ่งเรียกกันว่า ‘GENIUS’ มีเป้าหมายกำหนดมาตรฐานด้านสภาพคล่องและการปฏิบัติตามกฎระเบียบป้องกันการฟอกเงิน(AML) ของผู้ออกสเตเบิลคอยน์ หากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ ฟิเดลิตีอาจกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายสำคัญที่จะขับเคลื่อนตลาดสเตเบิลคอยน์ฝั่งสถาบันให้เติบโตยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0