บิตคอยน์(BTC) ราคาร่วงลง จากท่าทีระมัดระวังของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนเวลาอันควร ประกอบกับการคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอลงของบริษัทเอ็นวิเดีย ทำให้ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยกลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐลดลงอย่างรุนแรง โดยตลาดยังจับตาความซบเซาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นหัวใจของอุปกรณ์ขุดคริปโต อาจทำให้ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง
จากข้อมูลความสัมพันธ์ของบิตคอยน์กับสินทรัพย์อื่น พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับดัชนีหุ้นสหรัฐ โดยเฉพาะ S&P500 (+0.83) และ Nasdaq 100 (+0.84) ขณะที่ในปีนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างบิตคอยน์และดัชนีเซมิคอนดักเตอร์(SOX) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับ +0.84 ตรงกันข้ามกับทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยมีความสัมพันธ์ทางลบเพิ่มขึ้นล่าสุดอยู่ที่ -0.76 สะท้อนว่าราคาบิตคอยน์ยังเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับสินทรัพย์เสี่ยง และสวนทางกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างชัดเจน
ด้านข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์ส ระบุว่าปริมาณสัญญาคงค้าง(Open Interest) ของบิตคอยน์ในตลาด CME ลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แสดงถึงการไหลออกของเงินทุนจากสถาบันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณ *คำสำคัญ* ที่ตลาดกำลังลดความเชื่อมั่นต่อคริปโต
ช่วงนี้ สหรัฐกำลังเผชิญความเสี่ยงของ ‘สเตกเฟลชัน’ หรือภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวพร้อมกับเงินเฟ้อสูง โดยหนึ่งในปัจจัยหลักคือแนวโน้มชะลอตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนราคาหุ้น และอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของบริษัทด้านการขุดคริปโต ส่งผลลบต่อภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
แม้ว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยลดแรงเทขายและจำกัดการร่วงของบิตคอยน์เมื่อเทียบกับตลาดหุ้น แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน บิตคอยน์ยังถูกมองว่าเป็น *สินทรัพย์เสี่ยง* มากกว่าช่องทางการลงทุนหลัก จึงยากที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากในช่วงนี้
*ตารางกำหนดการสำคัญที่นักลงทุนควรจับตา:*
- 17 เมษายน: การประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) กำหนดนโยบายดอกเบี้ย
- 17 เมษายน: ดัชนีเศรษฐกิจจากธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย
- 23 เมษายน: ดัชนี PMI ของสหรัฐ
ความคิดเห็น: แนวโน้มตลาดในระยะสั้นยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยมหภาค โดยเฉพาะทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการเติบโตของภาคเทคโนโลยี หากตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ฟื้นตัว อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในคริปโตได้อีกระลอก
ความคิดเห็น 0