บ็อบ เอโซดาเม รองประธานฝ่ายตลาดทุนของ INX ได้ร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ การโทเคนสินทรัพย์จริง (RWA) และแนวโน้มการยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีในกลุ่มนักลงทุนสถาบันและรายย่อย ในงานปารีสบล็อกเชนวีคที่ผ่านมา
เอโซดาเมระบุว่า *ทรัมป์* กำลังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย หลังจากชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 แม้ว่ากฎหมายที่ชัดเจนยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ แต่ *ทำเนียบขาว* แสดงท่าทีชัดเจนในทิศทาง ‘สนับสนุนนวัตกรรม’ เป็นหลัก
"ในอดีต การเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ คือข้อเสียเปรียบในเวทีโลก แต่ปัจจุบันภาพลักษณ์เหล่านี้กำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว" เขากล่าว
เมื่อวันที่ 11 เมษายน *ทรัมป์* ได้ลงนามในกฎหมายยกเลิกข้อกำหนดดีไฟน์ (DeFi) ของสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) ซึ่งถูกมองว่าเป็น ‘ชัยชนะสำคัญ’ ของอุตสาหกรรมคริปโต
เอโซดาเมชี้ว่า แม้โปรเจกต์โทเคนทรัพย์สินจริง (RWA) จะได้รับความสนใจมาหลายปี แต่ปี 2024 ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง *แบล็กร็อก* และ *แฟรงคลิน เทมเพิลตัน* เริ่มเปิดเผยกลยุทธ์โทเคนที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
"ผู้ชนะที่แท้จริงในปีที่ผ่านมา คือกองทุนตลาดเงินที่โทเคนตราสารหนี้รัฐบาล" เขาระบุ
สำหรับอนาคต *สเตเบิลคอยน์* จะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในวงการ RWA เพราะสามารถใช้เป็น ‘สินทรัพย์จริงในรูปแบบสูงสุด’ เมื่อพิจารณาจากศักยภาพการใช้งานในโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลก
ทางด้านนักลงทุนรายย่อย เขาเน้นว่า ‘การเข้าถึง’ คือสิ่งสำคัญ ผ่านโทเคนหุ้น นักลงทุนจาก *ไนจีเรีย*, *อาร์เจนตินา*, และ *ฟิลิปปินส์* จะสามารถลงทุนในบริษัทระดับโลกอย่าง *เทสลา(TSLA)* หรือ *กูเกิล* ได้แม้มีเงินแค่ 10 ดอลลาร์
ในอีกด้าน INX ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในแคนาดา ได้ให้บริการครอบคลุมทั้งการออกโทเคน การจดทะเบียนจดหมายทุน ไปจนถึงการจ่ายเงินปันผล ล่าสุดบริษัทเตรียมถูกควบรวมโดย *รีพับบลิก* ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนรออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
เอโซดาเมทิ้งท้ายว่า “เรากำลังสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมการให้คำปรึกษา ออกสินทรัพย์ ซื้อขาย และกระจายสินทรัพย์ดิจิทัลในธุรกิจของเรา”
ความคิดเห็น 0