เกิดกระแสคาดการณ์ใหม่เกี่ยวกับการลงทุนใน *บิตคอยน์(BTC)* ของรัฐบาลสหรัฐ หลังเซบาสเตียน แบร์ ประธานของบริษัทจัดการสินทรัพย์ *คอยน์เบส แอสเซท แมเนจเมนท์* ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลอาจสามารถลงทุนในบิตคอยน์วงเงินสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 142 ล้านล้านวอน) ได้โดยไม่ต้องเพิ่มหนี้สาธารณะหรือพิมพ์เงินเพิ่ม
ในบทสัมภาษณ์ล่าสุด แบร์อธิบายว่า หากรัฐบาลเปลี่ยนวิธีการบัญชีเกี่ยวกับทองคำที่ถือครองอยู่ ก็จะสามารถหาแหล่งทุนเพื่อซื้อบิตคอยน์ได้โดยไม่กระทบการเงินแผ่นดิน ปัจจุบันสหรัฐบันทึกมูลค่าทองคำคงเหลือไว้ที่ราคาประมาณ 42.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามมาตรฐานปี 1973 ในขณะที่ราคาทองคำปัจจุบันสูงกว่า 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งสร้างส่วนต่างทางบัญชีสูงถึง 9 แสนล้านดอลลาร์
*ความคิดเห็น*: นี่เป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะจะสามารถพลิกบัญชีทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วให้กลายเป็นงบลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้
แบร์ระบุเพิ่มเติมว่าการใช้มูลค่าส่วนเกินนี้ จำเป็นต้องผ่านการปรับแก้กฎหมายที่เปิดทางให้ *กระทรวงการคลังสหรัฐ* ออกใบรับรองทองคำตามมูลค่าตลาดจริง และสามารถจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติขึ้นมาซื้อบิตคอยน์ในระดับรัฐได้
ข้อเสนอดังกล่าวยังสอดคล้องกับร่างกฎหมาย “*Bitcoin Bill*” ของวุฒิสมาชิกซินเธีย ลูมิส ซึ่งมีเป้าหมายให้รัฐบาลสหรัฐจัดซื้อบิตคอยน์จำนวน 1 ล้านเหรียญภายใน 5 ปี โดยไม่เพิ่มการขาดดุลงบประมาณแผ่นดิน
หากแผนการนี้เกิดขึ้นจริง รัฐบาลสหรัฐจะถือครองสัดส่วนกว่า *5.5%* ของมูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์ ส่งผลสะเทือนต่อแนวโน้มของทั้งตลาดคริปโตทั่วโลก และอาจจะจุดประกายให้ประเทศอื่น ๆ หันมาศึกษาการเคลื่อนไหวลักษณะเดียวกันเพื่อเตรียมรับมือกับเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังมาแรง
แม้แบร์จะยังไม่เปิดเผยกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่เขาระบุว่าหากมีแรงสนับสนุนทางการเมืองเพียงพอ แผนดังกล่าวอาจเริ่มเป็นรูปธรรมภายในปี 2025 และอาจเป็นปัจจัยสำคัญส่งเสริมราคาบิตคอยน์ที่ขณะนี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณระดับ *94,000 ดอลลาร์*
แผนการถือครองบิตคอยน์ของสหรัฐจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำได้ โดยจะกลายเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ที่เปลี่ยนโฉมบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0