ยอดเงินของเหรียญมีเสถียรภาพ (Stablecoin) ที่ฝากไว้ในไบนานซ์(Binance) ณ เดือนมิถุนายน พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ *31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43 ล้านล้านวอน)* ซึ่งตลาดวิเคราะห์ว่าสัญญาณดังกล่าวอาจบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่กำลังจะหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดเหรียญทางเลือกหรือ *อัลท์คอยน์(Altcoin)* อย่างมีนัยสำคัญ
ทิโม ออยโนนเนน(Timo Oinonen) นักวิเคราะห์ตลาดคริปโตกล่าวว่า ปรากฏการณ์นี้คือ *“สัญญาณเริ่มต้นของการระเบิดของสภาพคล่อง”* โดยชี้ว่าในขณะนี้นักลงทุนยังคงถือครองสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำอย่าง *เทเธอร์(USDT)* และ *USDคอยน์(USDC)* รอจังหวะเข้าซื้ออัลท์คอยน์ที่ชัดเจน
ในบทวิเคราะห์ล่าสุดที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์คริปโตควอนไต(CryptoQuant) ออยโนนเนน ระบุว่า ปริมาณสเตเบิลคอยน์ที่สะสมอยู่ในไบนานซ์ถือเป็น *ตัวชี้วัดสำคัญของสภาพคล่องที่อาจเข้าสู่ตลาดในอนาคต* พร้อมอธิบายว่า “เงินในส่วนนี้ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ และกำลังรอสัญญาณเพื่อเข้าสู่ตลาด” ซึ่งสะท้อนถึงความระวังตัวของนักลงทุนที่ยังคงหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ขณะเดียวกันก็จับตาโอกาสในการลงทุน โดยเชื่อว่าสถานการณ์เช่นนี้อาจนำไปสู่การเปิดฉากของ *“อัลท์ซีซั่น”*
ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา สัดส่วนตลาดของบิตคอยน์(BTC) ลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่ากลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนเริ่มเบนเป้าไปยังเหรียญอื่น ๆ มากขึ้น อีกทั้งการที่สเตเบิลคอยน์ถูกสะสมเป็นจำนวนมาก บ่งบอกถึงศักยภาพของ *แรงซื้อที่พร้อมปลดปล่อยได้ทุกเมื่อ* ทำให้ทิศทางของตลาดมีแนวโน้มพลิกผันได้ง่ายจากปัจจัยเพียงเล็กน้อย
ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความสนใจกับสถานการณ์ "รอสภาพคล่อง" ในครั้งนี้เป็นพิเศษ โดยมองว่า หากมีปัจจัยภายนอก เช่น การเปิดตัว ETF บิตคอยน์ หรือ *นโยบายสนับสนุนคริปโตของทรัมป์* เกิดขึ้น อาจกลายเป็น *‘ตัวจุดชนวน’* ที่ทำให้เม็ดเงินสเตเบิลคอยน์ไหลเข้าสู่ตลาดอัลท์คอยน์อย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น 0