Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ริปเปิล(XRP) พุ่งแตะ 3.4 ดอลลาร์ หลังปริมาณธุรกรรมพุ่ง-ยุติคดีกับ SEC

ริปเปิล(XRP) พุ่งแตะ 3.4 ดอลลาร์ หลังปริมาณธุรกรรมพุ่ง-ยุติคดีกับ SEC / Tokenpost

ริปเปิล(XRP) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดอย่างมาก หลังราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยปัจจุบันซื้อขายใกล้ระดับ 3.4 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,726 บาท) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ ทั้งที่เพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อน นักวิเคราะห์หลายรายยังคงเตือนว่า XRP อาจร่วงลงต่ำกว่า 2.4 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,336 บาท)

ก่อนหน้านี้ การคาดการณ์แนวโน้มขาลงมีพื้นฐานจากตัวชี้วัดด้านเทคนิค อาทิ ‘เดธครอส’ (Death Cross) ของค่าเฉลี่ยราคา, สัญญาณขายจาก TD Sequential และแรงขายจำนวนมากในตลาด อีกทั้งเมื่อราคา XRP หลุดแนวรับสำคัญที่ 3 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,170 บาท) ก็มีความกังวลว่าแนวรับใหม่ที่ 2.8 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,892 บาท) อาจไม่สามารถยืนได้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเชิงลบเหล่านี้กลับไม่เป็นจริง

เมื่อวันที่ 24 แพลตฟอร์มวิเคราะห์ตลาดอย่างซานติเมนต์(Santiment) เปิดเผยว่า ‘การเพิ่มขึ้นของปริมาณธุรกรรมและกิจกรรมบนเครือข่าย XRP อย่างมีนัยสำคัญ’ เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ราคากลับตัวขึ้น โดยระบุว่า ปริมาณการใช้งาน XRP ในไม่กี่วันมานี้แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งแสดงสัญญาณ ‘ยูทิลิตี้พุ่งขึ้น’ อันเป็นสัญญาณบวกที่นำหน้าการปรับตัวของราคา ทั้งนี้ ซานติเมนต์ยังระบุว่า XRP ได้ “ค่อยๆ กลับมายืนเหนือระดับ 3.05 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,240 บาท) ซึ่งเป็นระดับที่สะท้อนถึงแนวโน้มเชิงบวกจากเครือข่ายก่อนหน้านี้”

แรงกระเพื่อมเชิงบวกในครั้งนี้ยังได้แรงส่งจากการที่ริปเปิลและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ได้ ‘ถอนอุทธรณ์คดีฟ้องร้องซึ่งกันและกัน’ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดข้อพิพาททางกฎหมายที่ต่อเนื่องมายาวนานเกือบ 5 ปี โดยก่อนหน้านี้ แบรด การ์ลิงเฮาส์ CEO ของริปเปิล เคยระบุว่า “คดีความได้จบลงโดยพฤตินัย” และในครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบลดลงในหมู่นักลงทุน

อีกหนึ่งปัจจัยบวกคือข่าวการเข้าซื้อบริษัทให้บริการชำระเงิน ‘เรลล์’ ด้วยมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,780 ล้านบาท) ซึ่งช่วยเสริมความคาดหวังในหมู่นักลงทุนต่อการขยายธุรกิจของริปเปิลในอนาคต โดยเฉพาะในด้านกลยุทธ์ของ ‘สเตเบิลคอยน์’ และการขยายเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก

ปรากฏการณ์นี้ตอกย้ำว่า ‘ตลาดคริปโต’ ยังคงมีความ *คาดเดาได้ยาก* โดยแม้นักวิเคราะห์จะอ้างอิงข้อมูลทางเทคนิคหรือปัจจัยภายในตลาด แต่ตัวแปรภายนอก เช่น กฎหมาย การเมือง หรือเทคโนโลยี ก็สามารถเปลี่ยนทิศทางตลาดได้ในพริบตา *ความคิดเห็น:* เมื่อพิจารณาร่วมกับความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายเศรษฐกิจมหภาคของรัฐบาลทรัมป์ ยิ่งสะท้อนว่าภาวะตลาดยังเปราะบางและอ่อนไหวต่อข่าวสาร การประกาศเพียงข่าวเดียวก็สามารถพลิกฟื้นบรรยากาศทั้งตลาดได้ทันที

ทิศทางของ XRP ในขณะนี้เป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนว่าการพึ่งพาแค่การวิเคราะห์ทางเทคนิคอาจมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่นักลงทุนใช้เครื่องมือเลเวอเรจสูง เพราะ ‘ความผันผวนแบบดาร์กฮอร์ส’ เช่นนี้สามารถทำให้ขาดทุนอย่างรุนแรงได้ในเวลาอันสั้น *ความคิดเห็น:* นักลงทุนควรรอบคอบและกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อรับมือกับความพลิกผันของตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1