หากบิตคอยน์(BTC)สามารถพุ่งแตะระดับ 340,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 47.26 ล้านบาท) ในช่วงปลายของรอบขาขึ้นที่กำลังดำเนินอยู่ จะนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่บิตคอยน์มีผลตอบแทนสูงกว่ารอบขาขึ้นก่อนหน้า ความเป็นไปได้นี้แม้จะ *ท้าทายอย่างยิ่ง* แต่ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก
เจย์สัน พิซซิโน(Jason Pizzino) นักลงทุนสายมาโคร ออกมากระตุ้นให้ตลาดตั้งข้อสังเกตผ่าน X (แพลตฟอร์มเดิมของ Twitter) โดยกล่าวว่า *หากบิตคอยน์ต้องการแซงผลตอบแทนประมาณ 2,089% ที่ทำได้ในช่วงปี 2019 ถึง 2021 ราคาจะต้องพุ่งขึ้นกว่า 3 เท่าจากระดับปัจจุบันจนไปแตะ 340,000 ดอลลาร์* ซึ่งแม้จะเป็น *เป้าหมายที่ยากต่อการบรรลุในระยะสั้น* แต่กระแสคาดหวังก็ยังแรงไม่ตก
บิตคอยน์ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาแล้วราว 700% จากจุดต่ำสุดในตลาดหมีปี 2022 ที่อยู่ประมาณ 15,600 ดอลลาร์ (ราว 2.17 ล้านบาท) แม้จะเป็นการเติบโตที่ *ไม่ชันเท่ารอบอดีต* แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ด้านมาโครที่ทำผลงาน *โดดเด่นที่สุด*
พิซซิโน เสริมว่า “หากราคาบิตคอยน์แตะ 340,000 ดอลลาร์ได้จริง เราจะได้เห็นรอบขาขึ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ารอบก่อนหน้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 16 ปีของบิตคอยน์ ซึ่งแม้จะยากมาก แต่ตอนนี้หลายคนกำลังตั้งคำถามว่าเป็นไปได้หรือไม่”
เขายังชี้ให้เห็นว่าหากราคาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง บิตคอยน์จะมีมูลค่าตลาดกว่า 6.7 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 932.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งเทียบได้ประมาณ *หนึ่งในสามของมูลค่าตลาดทองคำ* ที่อยู่ราว 23 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,197 ล้านล้านบาท) และนั่นจะทำให้บิตคอยน์กลายเป็น *สินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับสองของโลก* รองจากทองคำ
แม้การบรรลุตัวเลขนี้จำเป็นต้องมีเงินทุนมหาศาลไหลเข้ามา และได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก แต่ด้วยความเป็นไปได้ที่รอบตลาดนี้อาจแตกต่างจากรอบก่อนหน้า จึงทำให้บิตคอยน์ยังคงได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ที่น่าจับตามองอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0