ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศยุติโครงการกำกับดูแลธนาคารที่เกี่ยวข้องกับคริปโตอย่างเป็นทางการ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่านี่คือก้าวสำคัญในการนำ *บิตคอยน์(BTC)* เข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมอย่างเป็นรูปธรรม มายเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) หนึ่งในผู้สนับสนุนบิตคอยน์ที่แข็งแกร่ง แสดงความยินดีต่อท่าทีดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า “*ตอนนี้ทางเปิดแล้วสำหรับบิตคอยน์ในอุตสาหกรรมธนาคาร*”
โครงการที่ถูกยกเลิกนี้เริ่มต้นในปี 2023 โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมธนาคารที่ทดลองดำเนินงานกับคริปโตอย่างเข้มงวด โดยอ้างถึง *ความผันผวนสูงและความเสี่ยงทางเทคโนโลยี* อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้ส่งสัญญาณสำคัญว่า ธุรกิจด้านคริปโตจะถูกรวมไว้ในการกำกับดูแลตามปกติของระบบการเงินเดิม
ทาง *Fed* ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมีข้อกำกับพิเศษสำหรับคริปโตหรือโครงการฟินเทคอีกต่อไป เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่สามารถประเมินและจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ได้ด้วยตนเองแล้ว หลังจากที่ได้ทดลองและสะสมประสบการณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังสื่อถึงความพร้อมของระบบในการรองรับ *บริการคริปโตภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่*
ในวงกว้าง การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็น *แรงผลักดันสำคัญในการยอมรับคริปโตในระบบการเงิน* เจอโรม พาวเวล(Jerome Powell) ประธาน *Fed* เคยกล่าวว่า “คริปโตใกล้เข้าสู่กระบวนการเป็นกลไกหลัก” หากกฎเกณฑ์มีความชัดเจนมากขึ้น จะเอื้อต่อการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันในระยะยาว
ด้าน ซินเธีย ลูมิส(Cynthia Lummis) สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน และผู้สนับสนุนบิตคอยน์รายใหญ่ เห็นว่าการยกเลิกนโยบายดังกล่าวคือการปิดฉากนโยบาย “Chokepoint 2.0” หรือแนวทางที่จำกัดการเข้าถึงบริการของธนาคารสำหรับธุรกิจคริปโต เธอย้ำว่านี่คือสัญญาณของการยุติ *นโยบายปิดกั้นทางการเงิน* ต่อภาคธุรกิจคริปโตในอดีต
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา หน่วยงานการเงินของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยแนวทางการให้บริการฝากคริปโตของธนาคารอย่างละเอียด ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามในการวางโครงสร้างที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ความเคลื่อนไหวของ *Fed* ครั้งนี้ จึงถือเป็นหมุดหมายที่อาจ *เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลกอย่างลึกซึ้ง* ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในแวดวงแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสัญญาณบวกที่อาจนำพาสู่ *การเติบโตและการยอมรับในวงกว้างของคริปโตในระบบเศรษฐกิจโลก* ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0