บิตคอยน์(BTC) ร่วงแรงในรอบวัน ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 13 วันที่ระดับ 112,200 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15.59 ล้านบาท หลังจากทะยานแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 123,800 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา คิดเป็นการปรับลดลงราว 8% ท่ามกลางกระแสในโซเชียลมีเดียที่มองว่าเป็น ‘จังหวะเข้าซื้อ’ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากความเสี่ยงจากการร่วงต่อยังคงมีอยู่
เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนเชนอย่างแซนตี้เมนต์(Santiment) ระบุว่า ในอดีตพฤติกรรม ‘มองโลกในแง่ดีอย่างพร้อมเพรียงกัน’ ของนักลงทุนมักกลายเป็น ‘สัญญาณการปรับฐาน’ มากกว่าจะเป็นสัญญาณขาขึ้น พวกเขาอธิบายว่าตลาดจะไม่สามารถสร้างฐานที่มั่นคงได้ จนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า ‘ช่วงเวลาแห่งความกลัว’ ซึ่งนักลงทุนหยุดหวังและยอมขายขาดทุนออกมา
ข้อมูลจากไบแนนซ์ชี้ว่า ก่อนที่ราคาจะร่วงครั้งนี้ ปริมาณการเปิดสถานะขาย(short) พุ่งขึ้นจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน แต่หลังจากที่ราคาทรุดลงอย่างรวดเร็ว กลับมีแรงซื้อเพียงระดับเบาบาง สะท้อนว่าตลาดยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะฟื้นตัวอย่างแท้จริง
แซนตี้เมนต์ยังกล่าวเสริมว่า หากจะเกิดการรีบาวด์อย่างมั่นคง ตลาดจะต้องเห็นการเปิดสถานะขายมากกว่าสถานะซื้อในระยะสั้นต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘ชอร์ตสควีซ’(Short Squeeze) ที่เกิดขึ้นจากแรงซื้อเร่งด่วนของนักลงทุนที่ต้องรีบปิดสถานะขาย เมื่อตลาดพุ่งขึ้นสวนทาง
แต่หลังจากราคาหลุดระดับ 114,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15.85 ล้านบาท กระแสมองบวกก็เริ่มเบาบางลง อย่างไรก็ตาม แซนตี้เมนต์ยังไม่มองว่าความตกใจในตลาดครั้งนี้เทียบได้กับ ‘สถานการณ์ตื่นตระหนกสูงสุด’ แบบในช่วงเดือนเมษายนเมื่อเกิดประเด็นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ หรือเดือนมิถุนายนช่วงวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลาง
นักวิเคราะห์บางรายจึงยังเชื่อว่า การจะเห็น ‘การรีบาวด์ที่แท้จริง’ ต้องรอให้ตลาดเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า “เมื่อถนนมีเลือดนอง” ซึ่งหมายถึงสภาพตลาดที่นักลงทุนเต็มไปด้วยความกลัว
ขณะเดียวกัน ดัชนีบนเชนยังสะท้อนมุมมองในเชิงบวก โดยอัตราส่วน MVRV ซึ่งคือมูลค่าตลาดเทียบกับมูลค่าที่รับรู้ ของบิตคอยน์ในช่วง 30 วันล่าสุด ติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา หรือตีความได้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในภาวะขาดทุน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้เล่นรายใหม่มองว่าราคาเริ่มคุ้มค่าสำหรับการเข้าซื้อ
ไม่เพียงแค่นั้น การเคลื่อนไหวของ ‘วาฬ’ หรือผู้ถือบิตคอยน์จำนวนมากยังแสดงให้เห็นถึงการสะสมต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นมา กระเป๋าที่ถือระหว่าง 10 ถึง 10,000 BTC ได้เพิ่มจำนวนบิตคอยน์รวมแล้วกว่า 56,372 BTC สะท้อนถึงสัญญาณของ ‘การเก็บของที่จุดต่ำ’ ซึ่งอาจมีผลช่วยรับราคาบิตคอยน์ไม่ให้ดิ่งลึกไปกว่านี้
ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณบิตคอยน์ที่ฝากไว้ในแพลตฟอร์มเทรดก็ลดลงไปถึง 31,265 BTC ซึ่งอาจหมายถึงแรงกดดันในการขายที่อ่อนแรงลง และเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวในระยะสั้น
แซนตี้เมนต์ประเมินสถานการณ์นี้ว่าเป็นลักษณะของ ‘การปรับฐานกลางทาง’ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในตลาดคริปโต พวกเขาเตือนว่า ขนาดการลดลง 8% ยังไม่เพียงพอในการสร้าง ‘แรงขายตื่นตระหนก’ แบบที่เคยเกิดขึ้นจากการร่วง 15%-20% ในอดีต
กระแส ‘เข้าซื้อตอนราคาตก’ ของนักลงทุนรายย่อยในครั้งนี้จึงอาจเป็นการมองโลกในแง่ดีที่มากเกินไป ซึ่งถ้าหากเกิดการปรับฐานต่อ ก็มีความเสี่ยงที่ตลาดจะต้องเผชิญช่วงเปลี่ยนผ่านที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังมากกว่าความเชื่อมั่น
ความคิดเห็น 0