ไมโครสแตรตีจี(MSTR) ได้เพิ่มการถือครองบิตคอยน์(BTC) อีก 20,356 BTC ในการเข้าซื้อครั้งล่าสุด คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.99 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 7.2 หมื่นล้านบาท โดยราคาซื้อเฉลี่ยต่อ BTC อยู่ที่ประมาณ 97,514 ดอลลาร์ ทำให้ขณะนี้ไมโครสแตรตีจีมีบิตคอยน์ในครอบครองรวม 490,096 BTC โดยมูลค่าการลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 33.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.2 ล้านล้านบาท
เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการเข้าซื้อครั้งนี้ ไมโครสแตรตีจีได้ออกตราสารหนี้แปลงสภาพ (Convertible Bond) มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในอัตราดอกเบี้ย 0% โดยมีราคาแปลงสภาพเริ่มต้นที่ 433.43 ดอลลาร์ต่อหุ้น บริษัทระบุว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในการซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม รวมถึงใช้ในด้านการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยชี้ว่าแนวทางดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระยะยาว และยังคงเดินหน้าขยายการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไป
ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ประธานของไมโครสแตรตีจี ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมอนุรักษ์นิยม CPAC โดยเน้นย้ำว่า ‘รัฐบาลสหรัฐควรพิจารณาถือครองบิตคอยน์ในระดับยุทธศาสตร์’ โดยระบุว่าหากสหรัฐมีบิตคอยน์ไว้ในครอบครองถึง 20% ของอุปทานทั้งหมด ก็จะสามารถรักษาสถานะผู้นำในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยเสนอว่า รัฐบาลควรจัดสรรเงินราว 39.2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านล้านบาท เพื่อซื้อบิตคอยน์ 3.9 ล้าน BTC อย่างไรก็ตาม นักการเมืองบางรายเสนอแนวทางที่รอบคอบกว่านี้ โดยซินเทีย ลูมมิส วุฒิสมาชิกสหรัฐ เสนอให้รัฐบาลถือครองบิตคอยน์เพียง 5% ของอุปทานทั้งหมด
ในอีกด้านหนึ่ง เซย์เลอร์ได้พบกับนายิบ บูเคเล ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการขยายการใช้งานบิตคอยน์ในประเทศ ซึ่งปัจจุบันเอลซัลวาดอร์ถือครอง 6,078 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 597 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.1 หมื่นล้านบาท แต่ภายใต้ข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) บิตคอยน์ไม่ได้ถูกใช้เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมายอีกต่อไป
ด้านราคาบิตคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 95,000 ดอลลาร์ โดยเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและนโยบายภาษีการค้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ระดับราคา 100,000 ดอลลาร์ยังคงเป็นแนวต้านสำคัญ อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของไมโครสแตรตีจี รวมถึงความเป็นไปได้ในการถือครองบิตคอยน์ในระดับประเทศ อาจเป็นปัจจัยสนับสนุนในระยะยาวสำหรับตลาดคริปโต
ความคิดเห็น 0