รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังคงเดินหน้าซื้อบิตคอยน์(BTC)อย่างต่อเนื่อง แม้จะลงนามในข้อตกลงเงินกู้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยข้อตกลงดังกล่าวมีเงื่อนไขให้ยกเลิกสถานะ ‘สกุลเงินตามกฎหมาย’ ของบิตคอยน์ และหยุดการซื้อเพิ่มเติมในอนาคต แต่รัฐบาลกลับไม่ปฏิบัติตาม และยังคงดำเนินนโยบายซื้อบิตคอยน์รายวันตามแผนเดิม
ตามข้อมูลจากสำนักงานบิตคอยน์เอลซัลวาดอร์(Bitcoin Office) ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2024 ซึ่งเป็นวันประกาศข้อตกลงกับ IMF รัฐบาลได้เพิ่มบิตคอยน์เข้าสู่กระเป๋าเงินกลางอีก 240 BTC ส่งผลให้ยอดสะสมอยู่ที่ 6,209 BTC กลยุทธ์นี้เป็นผลจากแผน ‘ซื้อวันละ 1 เหรียญ’ ซึ่งประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล(Nayib Bukele) เสนอเมื่อปี 2022 และยังคงยึดถือมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ข้อตกลงสินเชื่อกับ IMF ที่ลงนามเมื่อธันวาคมปีก่อน มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางการคลัง แต่ IMF คัดค้านการที่เอลซัลวาดอร์ใช้บิตคอยน์เป็นสื่อในการชำระเงินอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลบูเคเลยังคงยืนยันในแนวทางเดิม ด้วยการสะสมสินทรัพย์คริปโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะละเลยข้อเสนอและคำเตือนจาก IMF
พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ที่เชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของบิตคอยน์ แม้ในช่วงที่ราคาผันผวน โดยจากตัวเลขล่าสุด บิตคอยน์ที่รัฐบาลถือครองมีมูลค่าประมาณ 380.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,296 พันล้านวอน
*ความคิดเห็น*: ผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่าเบื้องหลังท่าทียืนกรานของรัฐบาลอาจมีแรงจูงใจทางการเมือง โดยเฉพาะการที่ประธานาธิบดีบูเคเลพยายามผลักดันบิตคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์ประเทศในเวทีโลก นี่อาจไม่ใช่แค่การลงทุนทางการเงิน แต่เป็นการลงทุนทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างแบรนด์ในระดับประเทศ
ความคิดเห็น 0