Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ลิน อัลเดนชี้บิตคอยน์(BTC) พร้อมทะยานทะลุ $150,000 ท่ามกลางวิกฤตหนี้สหรัฐฯ ที่ 'ไม่มีใครหยุดได้'

ลิน อัลเดนชี้บิตคอยน์(BTC) พร้อมทะยานทะลุ $150,000 ท่ามกลางวิกฤตหนี้สหรัฐฯ ที่ 'ไม่มีใครหยุดได้' / Tokenpost

ลิน อัลเดน(Lyn Alden) นักวิเคราะห์มหภาคระดับโลก ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับปัญหาการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐและแนวโน้มการเติบโตระยะยาวของบิตคอยน์(BTC) โดยในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด เธอใช้คำว่า *“ไม่มีใครหยุดรถไฟขบวนนี้ได้”* เพื่อสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเกิดจากนโยบายการคลังที่ไม่ยืดหยุ่นและรายได้ของรัฐบาลที่ผูกกับราคาสินทรัพย์

อัลเดนชี้ว่า *หนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ปัจจุบันพุ่งเกิน 120% ของ GDP คิดเป็นมูลค่าเกือบ 36.9 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 5,117 ล้านล้านบาท)* และยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1,390 ล้านล้านบาท) ทุกไตรมาส เธอเปรียบสถานการณ์นี้ว่าเหมือน *“รถไฟที่ค่อยๆ ตกราง”* และระบุว่าขาดแคลนทางออกที่แท้จริง ด้วยการเมืองที่แตกแยก จึงเป็นเรื่องยากที่จะขึ้นภาษีหรือปรับลดการใช้จ่ายรัฐบาล แม้กระทั่งการขึ้นภาษีผู้นำเข้าที่ดูเหมือนทางลัด ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างการคลังได้อย่างยั่งยืน

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ซับซ้อนแบบนี้ อัลเดนมองว่า สินทรัพย์อย่าง *บิตคอยน์* จะได้ประโยชน์ในระยะยาว เนื่องจากรายได้ของรัฐบาลนั้นผูกติดกับราคาสินทรัพย์อย่างแน่นหนา เมื่อพยายามใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวด สิ่งที่ตามมาคือการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและรายได้ภาษีลดลง ส่งผลลบต่อเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว ซึ่ง *“ทำให้ความต้องการในสินทรัพย์อย่างบิตคอยน์ยังคงอยู่ได้ในเชิงโครงสร้าง”*

จากรายงานตลาดแรงงานสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอ และกรณีที่อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) อดีตซีอีโอของบิทเม็กซ์(BitMEX) ตัดสินใจขายสินทรัพย์ของตัวเอง อัลเดนวิเคราะห์ว่า สัญญาณจากตัวเลขการจ้างงานและดัชนีภาคการผลิต ISM ล้วนสะท้อนการชะลอตัวของเศรษฐกิจชัดเจน อย่างไรก็ตาม *ความคิดเห็น* ของเธอคือ จุดอ่อนเหล่านี้กำลังเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดบิตคอยน์และคริปโตอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว

สำหรับทิศทางราคาบิตคอยน์ อัลเดนประเมินว่า “วัฏจักรรอบนี้ยังไม่จบ” และคาดว่ า“*ราคาจะทะลุ 150,000 ดอลลาร์ (ราว 5.2 ล้านบาท) ในรอบนี้ และอาจไปได้สูงกว่านั้น*” แต่ย้ำว่าการขึ้นลงของราคาบิตคอยน์ในอนาคตจะไม่รุนแรงเหมือนในอดีต โดยจะ *“มีแนวโน้มเป็นวัฏจักรที่ยาวนานกว่า และแปรผันน้อยกว่า”* คล้ายกับการเคลื่อนไหวของหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ

เมื่อถูกถามถึงความกังวลเกี่ยวกับบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์อย่างมหาศาล เช่น ไมโครสแตรทีจี(MicroStrategy) หรือเมตาแพลเน็ต อัลเดนมองว่า ยังไม่ถึงขั้นน่าเป็นกังวลเมื่อเทียบกับกรณีประวัติศาสตร์อย่างมาวน์กอกซ์ เธอกล่าวว่า “บริษัทเหล่านี้ถือครอง BTC ในสัดส่วนที่ยังไม่มากพอจะสร้างความเสี่ยงในระบบ” และ *เตือนว่า ความคึกคักของตลาดและการใช้เลเวอเรจมากเกินไปต่างหาก ที่อาจเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดการปรับฐานรอบใหม่*

อัลเดนยังกล่าวถึงภาพรวมของทศวรรษนี้ว่า เป็น *“ยุคแห่งเงินเฟ้อ”* ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเงินและปัญหาซัพพลายเชนตั้งแต่ปี 2020 แม้เทคโนโลยี อย่างปัญญาประดิษฐ์(AI) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตในบางส่วน แต่ *“สินทรัพย์จำกัด”* อย่างอสังหาริมทรัพย์ติดทะเล ทองคำ และบิตคอยน์ ยังคงมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว

เธอยังมองว่า แม้ AI จะทำลายโครงสร้างของงานบางประเภท เช่น งานคอปกขาว แต่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนบทบาทแรงงานมนุษย์ไปสู่หน้าที่ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในระยะยาว

ท้ายที่สุด อัลเดนสรุปว่า “เรากำลังอยู่ในยุคแห่งวิกฤตและการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งหากนำ *เทคโนโลยี* มาใช้อย่างฉลาด ก็สามารถออกแบบอนาคตที่ดีขึ้นได้” พร้อมเน้นว่า *บิตคอยน์* ยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งขึ้นในภาพรวมระยะยาว โดยมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสำหรับโลกยุคใหม่ที่เปราะบางและผันผวนนี้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1