อลีนา วราโนวา ผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ทอัพด้านคริปโตจากเช็กชื่อซาโตชิแลบส์(SatoshiLabs) ออกโรงเตือนถึงแนวโน้มที่ ‘อาชญากรรมรุนแรงที่มุ่งเป้าผู้ถือครองบิตคอยน์(BTC) และคริปโตเคอร์เรนซี’ กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยกล่าวในงานประชุม Baltic Honeybadger 2025 ที่เพิ่งจัดขึ้นที่นครริกา ประเทศลัตเวียเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การคุกคามทางกายภาพต่อผู้ถือครองคริปโตจำนวนมาก กำลังกลายเป็นปัญหาระดับโลก
วราโนวาระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานคริปโต ‘อย่างน้อยหนึ่งรายต่อสัปดาห์’ ที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมรุนแรง ทั้งการลักพาตัว ทรมาน หรือข่มขู่ โดยในบางกรณีเหยื่อถึงขั้นถูกคุกคามถึงชีวิต ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ ถือเป็นแนวโน้มที่น่ากังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่ออาชญากรไม่ได้มุ่งเป้าแค่กับนักขุดยุคแรกหรือผู้มีสินทรัพย์จำนวนมากอีกต่อไป แต่คนธรรมดาที่ถือครองเพียงเล็กน้อยก็อาจตกเป็นเป้าได้เช่นกัน
“สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาของนักขุดรุ่นแรกหรือบิตคอยน์ OG เท่านั้น” วราโนวาเผย พร้อมยกตัวอย่างว่า ผู้ที่มีคริปโตเพียงมูลค่า *6,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 830,000 บาท)* ก็มีโอกาสถูกจับตัวได้ และกรณีบูชคริปโตประมาณ *50,000 ดอลลาร์ (ราว 6.95 ล้านบาท)* ก็อาจถึงขั้นโดนสังหาร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาชญากรใช้วิธีขู่เข็ญเพื่อแย่งชิง ‘คีย์ส่วนตัว’ หรือ ‘รหัสกู้คืนกระเป๋าสตางค์คริปโต’ เพื่อเข้าถึงทรัพย์สินดิจิทัลโดยตรง
ด้วยคุณสมบัติของคริปโตที่ ‘ไม่ระบุตัวตน’ และ ‘ไม่สามารถเรียกคืนได้’ ยิ่งเปิดช่องให้กลุ่มอาชญากรสามารถโยกย้ายสินทรัพย์อย่างไร้ร่องรอยทันทีที่ได้คีย์มาในครอบครอง ดังนั้น การระมัดระวังเรื่อง ‘ความปลอดภัยส่วนบุคคล’ และ ‘ความลับในการถือครอง’ จึงเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้
ความคิดเห็นจากวราโนวาระบุว่า แค่ใช้รหัสผ่านหรือเก็บสินทรัพย์ไว้ในโคลด์วอลเล็ตอาจไม่เพียงพอ แนะนำให้พิจารณาเรื่อง ‘ความปลอดภัยทางกายภาพ’ และ ‘การรักษาความลับของตัวตน’ ไปพร้อมกัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในวงการย้ำว่า การกระจายพอร์ตการลงทุน รักษาดูแลข้อมูลส่วนตัว และ *ไม่เปิดเผยตัวตนหรือการลงทุนแก่บุคคลรอบตัวโดยไม่จำเป็น* คือแนวทางเบื้องต้นในการป้องกันตัว
เมื่อ *บิตคอยน์กลายเป็นเสมือน ‘ทองคำแห่งยุคดิจิทัล’* ภัยคุกคามในโลกแห่งความจริงก็ไม่ใช่สิ่งที่มองข้ามได้อีกต่อไป เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นสัญญาณชัดเจนว่า ‘ประเด็นความปลอดภัยรอบด้าน’ กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของระบบนิเวศคริปโตเคอร์เรนซีทั้งระบบ
ความคิดเห็น 0