บิตคอยน์(BTC) ถูกเทขายหลังแตะระดับ 120,000 ดอลลาร์ (ราว 4.37 ล้านบาท) ส่งผลให้อัลท์คอยน์ขนาดใหญ่หลายตัวเผชิญแรงขายรุนแรงมากกว่า แม้อีเธอเรียม(ETH) ยังคงเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ แต่การร่วงลงของโทเคนอื่น ๆ สร้างความกังวลในตลาดคริปโตอย่างชัดเจน
เมื่อวันที่ 11 ราคาของบิตคอยน์เคยพุ่งสูงถึง 122,000 ดอลลาร์ (ราว 4.45 ล้านบาท) ผลักดันมูลค่าตลาดรวมขึ้นไปอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 91.2 ล้านล้านบาท) ก่อนที่จะพบแรงขายทำให้ราคาย่อลงต่ำกว่า 118,500 ดอลลาร์ (ราว 4.32 ล้านบาท) ล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ราว 119,000 ดอลลาร์ (ราว 4.34 ล้านบาท) พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจมีความผันผวนในระยะสั้นต่อไป
หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อตลาด คือ การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับขึ้นเล็กน้อย ส่งผลต่อการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หากตัวเลขต่ำกว่าที่คาด อาจส่งผลให้ตลาดคาดหวังนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และหนุนให้ *ตลาดคริปโตฟื้นตัวกว้างขวางยิ่งขึ้น*
แม้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์จะลดลงเหลือประมาณ 2.36 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 86.1 ล้านล้านบาท) แต่ยังครองตำแหน่งสินทรัพย์อันดับ 6 ของโลก และครองส่วนแบ่งตลาด 58.6% ซึ่งสะท้อนถึง *ความแข็งแกร่งเทียบกับอัลท์คอยน์รายอื่น*
ขณะที่อีเธอเรียมยังคงทรงตัวที่ระดับประมาณ 4,300 ดอลลาร์ (ราว 597,000 บาท) และมียอดเติบโตรายเดือนสูงถึง 45% ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน ด้านแพลตฟอร์มสตอรี่เทลลิ่งแบบบล็อกเชนอย่าง *สตอรี(IP)* ลดลง 16% ขณะที่ *บองก์(BONK)* และ *เพนกวิน(PENGU)* ตกลง 12% ส่วน *ไพคอยน์(PI)* ลด 7% สะท้อนแนวโน้มอ่อนแอของอัลท์คอยน์ส่วนใหญ่
แม้บางโทเคนอย่างบิตคอยน์แคช(BCH), ทรอน(TRX) และ ตันคอยน์(TON) จะปรากฏแนวโน้มบวกบ้าง แต่ *จำนวนเหรียญที่ปรับตัวลงยังมากกว่าที่ปรับขึ้นอย่างชัดเจน* มูลค่าตลาดรวมของสินทรัพย์ดิจิทัลขณะนี้อยู่ที่ 4.04 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 149 ล้านล้านบาท) ลดลงจากวันก่อนหน้าราว 2%
นักวิเคราะห์เตือนว่า แนวโน้มของตลาดคริปโตในระยะกลางและระยะยาวจะขึ้นอยู่กับผลการประกาศ CPI ครั้งนี้ โดยแนะให้ *ให้ความสำคัญกับโครงสร้างของกระแสมากกว่าการเก็งกำไรในระยะสั้น* ความคิดเห็น
ความคิดเห็น 0