ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้ตลาดคริปโตเข้าสู่ภาวะตึงเครียด บิตคอยน์ปรับตัวลดลง 15% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 82,300 ดอลลาร์ พร้อมกับมูลค่าตลาดคริปโตที่หายไปกว่า 770,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลอย่างมาก
ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการปรับฐานครั้งนี้มาจาก ‘หุ้น AI’ ที่กำลังร้อนแรง โดยเฉพาะเอ็นวิเดีย(NVIDIA) ที่รายงานรายได้ไตรมาส 4 สูงถึง 39,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 78% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้นักลงทุนแห่เทเงินเข้าสู่ภาค AI ส่งผลให้หุ้นของเอ็นวิเดียพุ่งขึ้น 4% และมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 125,000 ล้านดอลลาร์ สถานการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดแรงขายในสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงบิตคอยน์
อีกปัจจัยที่กดดันตลาดคือการไหลออกของ ‘Bitcoin ETF’ โดยระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ มีเงินทุนไหลออกถึง 2,430 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงการทำกำไรของนักลงทุนสถาบัน เช่น ฟิเดลิตี(Fidelity) ที่ทำการขายสินทรัพย์ในปริมาณมาก กระตุ้นให้ตลาดเข้าสู่แนวโน้มขาลง
นอกจากนี้ การหมดอายุของ ‘สัญญาออปชันบิตคอยน์’ มูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ยิ่งสร้างแรงกดดันเพิ่มเติม โดยมีโอกาสที่ 78% ของมูลค่าทั้งหมด หรือประมาณ 3,900 ล้านดอลลาร์ จะหมดอายุโดยขาดทุน ซึ่งอาจเร่งให้เกิดแรงขายเพิ่มมากขึ้น
ขณะนี้ บิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ 85,534 ดอลลาร์ โดยแนวรับที่ 83,000 ดอลลาร์ถือเป็นระดับสำคัญ หากหลุดลงมาราคาอาจดิ่งลงไปที่ 80,313 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากตลาดสามารถรักษาแนวรับนี้ได้ อาจเกิด ‘รีบาวด์ระยะสั้น’ เนื่องจาก RSI อยู่ที่ระดับ 25.92 บ่งชี้ว่าตลาดเข้าสู่สภาวะ ‘Oversold’
แนวโน้มตลาดคริปโตในช่วงต่อไปขึ้นอยู่กับปัจจัยมหภาคและพฤติกรรมของนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนจึงควรจับตามองตัวแปรสำคัญอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางตลาดในระยะสั้นและระยะกลาง
ความคิดเห็น 0