แพลตฟอร์มอนุพันธ์แบบไร้ศูนย์กลาง ‘ไฮเปอร์ลิควิด(HyperLiquid)’ เตรียมปรับโครงสร้างระบบบริหารความเสี่ยงครั้งใหญ่ หลังเกิดเหตุการณ์การซื้อขายของเหรียญ ‘เจลลี่(JELLY)’ ที่นำไปสู่ความเสียหายจากการปรับสถานะมูลค่าประมาณ 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.98 พันล้านบาท โดยได้รับผลกระทบจากความพยายาม ‘ชักนำราคาตลาด’ ของนักลงทุนรายหนึ่ง
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากนักเทรดคนหนึ่งถือสถานะชอร์ตของสินทรัพย์อนุพันธ์ ‘เจลลี่’ บนไฮเปอร์ลิควิด พร้อมกันนั้นเขาก็เข้าซื้อเหรียญเจลลี่ในตลาดแบบไร้ศูนย์กลางจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวทำให้ราคาเหรียญพุ่งขึ้นอย่างผิดปกติ เรียกให้เกิดการ *ล้างสถานะอัตโนมัติ* และผลักภาระขาดทุนเข้าสู่ *คลัง HLP (Hyperliquidity Provider)* ซึ่งเป็นระบบจัดการสภาพคล่องของแพลตฟอร์ม
เพื่อควบคุมสถานการณ์ ไฮเปอร์ลิควิดตัดสินใจปิดตลาดการซื้อขายของเจลลี่ และกำหนดราคาเคลียร์สถานะที่ 0.0095 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดอ้างอิงบนออราเคิลแบบไร้ศูนย์กลางที่อยู่ที่ 0.50 ดอลลาร์ สหรัฐฯ อย่างมาก ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาว่า ไฮเปอร์ลิควิดละเลยหลักการ ‘ไร้ศูนย์กลาง’ โดยเฉพาะในแง่ของอำนาจการตัดสินใจที่พึ่งพานักตรวจสอบเครือข่าย (Validator) เพียงไม่กี่ราย
แกรซี เฉิน(Gracy Chen) ซีอีโอของบิทเกต(Bitget) ออกมาแสดงความเห็นอย่างเผ็ดร้อนว่า ไฮเปอร์ลิควิดมีโครงสร้างความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกับแพลตฟอร์มรวมศูนย์อย่าง FTX พร้อมระบุว่าระบบคลัง HLP ยังมีความเปราะบาง และขาดความโปร่งใส เช่นเดียวกับ อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ผู้ร่วมก่อตั้งบิทเม็กซ์(BitMEX) ที่ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างว่าระบบของไฮเปอร์ลิควิดเป็นแบบไร้ศูนย์กลางอย่างแท้จริง
ในการตอบโต้กระแสวิจารณ์ ไฮเปอร์ลิควิดประกาศมาตรการฟื้นฟูระบบครั้งใหญ่ เพื่อ ‘ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน’ โดยได้ลดเพดานทรัพย์สินที่ถูกล็อคในคลัง ‘ลิควิดเดเตอร์’ ของ HLP พร้อมปรับปรุงขั้นตอนการล้างสถานะด้วยอัลกอริธึมที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และลดรอบเวลาในการล้างสถานะ
นอกจากนี้ ยังได้วางเกณฑ์ควบคุมการกระจายความเสี่ยงใหม่ รวมถึงเพิ่มมาตรการ ‘การลดเลเวอเรจอัตโนมัติ (ADL)’ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายจากบัญชีเดียวลามไปสู่ระบบโดยรวม ในด้านของการควบคุมปริมาณการเปิดสถานะ ไฮเปอร์ลิควิดจะเริ่มใช้ *ระบบปรับอัตรา Open Interest Cap แบบไดนามิก* ที่สัมพันธ์กับขนาดของตลาด พร้อมทั้งเตรียมเปิด *ระบบโหวตออนเชน* สำหรับถอดถอนสินทรัพย์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญ คือการจ่ายคืนค่าเสียหายสำหรับผู้ถือสถานะ ‘ลอง’ ของเจลลี่ ณ เวลาที่ระบบปิด โดยใช้ราคาชดเชยที่ 0.037555 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามที่อยู่กระเป๋าที่ถูกตรวจพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จะถูกตัดสิทธิ์จากการรับเงินคืน
ตัวแทนจากไฮเปอร์ลิควิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็น ‘จุดเปลี่ยน’ สำคัญสำหรับการสร้างระบบที่แข็งแรงมากขึ้น “เราอาจยังไม่สมบูรณ์ แต่จะเดินหน้าสร้างระบบการเงินที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน” ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับการจับตาโดยผู้เชี่ยวชาญว่า หากดำเนินการได้อย่างราบรื่น อาจกลายเป็น *ต้นแบบของความโปร่งใสและเสถียรภาพในโลกดิไฟ (DeFi)* ในอนาคต
ความคิดเห็น 0