บิตคอยน์(BTC) ปิดไตรมาสแรกของปีด้วยทิศทางที่ซบเซา ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนที่เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น ขณะที่ราคาทองคำเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ราคาบิตคอยน์กลับลดลงกว่า 13% ในช่วงไตรมาสแรก ถือเป็นการเริ่มต้นที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018
ตลาดคริปโตขณะนี้กำลังให้ความสนใจกับนโยบาย ‘ภาษีศุลกากรใหม่’ ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดเริ่มใช้ในวันที่ 2 เมษายนนี้ นโยบายดังกล่าวมีผลกระทบกับสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,190 ล้านล้านวอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน ‘สินทรัพย์เสี่ยง’ รวมถึงบิตคอยน์ โดยนักเทรดบางรายเตือนว่าการปรับนโยบายดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณของ ‘ตลาดหมี’ ที่เริ่มต้นอย่างเต็มตัว
ในแง่การวิเคราะห์ทางเทคนิค แผนภูมิรายสัปดาห์ของบิตคอยน์แสดงรูปแบบ ‘Bearish Engulfing’ ซึ่งเป็นสัญญาณของความกลัวที่แพร่กระจายออกไปในหมู่นักลงทุน นอกจากนี้ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบชี้วัดทิศทาง 50 วันที่กำลังตัดกันกับ 50 สัปดาห์ ยังสะท้อนถึงความผันผวนที่อาจเกิดตามมาในระยะสั้น
แม้จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น อัตราว่างงาน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ตลาดดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับความเสี่ยงเรื่องภาษีศุลกากรมากกว่า ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็อ่อนลงไปเช่นกัน หลังจากที่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะลดดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ CME FedWatch Tool ชี้ว่าตลาดยังคาดหวังว่าการลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน แต่ยังขาดความมั่นใจอย่างชัดเจน
ด้านข้อมูลออนเชน สัดส่วน MVRV ซึ่งชี้วัดความคุ้มค่าของการถือสินทรัพย์ ได้เกิด ‘เดดครอส’ ไปเมื่อเดือนก่อน ส่งสัญญาณว่าตลาดได้หลุดออกจากภาวะที่ร้อนแรงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มี ‘สัญญาณจุดต่ำสุด’ ที่ชัดเจน ทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนยังมองความเป็นไปได้ของการปรับฐานลงต่อ
อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดค่าพรีเมียมของบิตคอยน์ที่แพลตฟอร์มโคอินเบส(COIN) เมื่อเทียบกับไบแนนซ์ ยังอยู่ในระดับกลาง ไม่ได้วกไปทางใดทางหนึ่ง ซึ่งบางฝ่ายเห็นว่าอาจสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในสหรัฐฯ ที่คาดว่า *ตลาดอาจมีโอกาสฟื้นตัว* ในไม่ช้า ทั้งนี้นักวิเคราะห์บางรายระบุว่าแรงขายจากความตื่นตระหนกในตลาดเริ่มลดลง และนี่อาจเป็น *สัญญาณของจุดกลับตัว* ที่กำลังจะมาถึง
โดยรวมแล้ว บิตคอยน์เดินหน้าสู่ไตรมาสที่สองในสถานการณ์ที่เรียกได้ว่า *ไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง* จากทั้งความล่าช้าในการลดดอกเบี้ย มาตรการภาษีอันตึงเครียดของทรัมป์ และสัญญาณทางเทคนิคที่บอกถึงความอ่อนแรง วันที่ 2 เมษายนซึ่งมาตรการภาษีจะเริ่มมีผลและคำแถลงของพาวเวลล์ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการชี้ทิศทางของตลาดคริปโตในช่วงถัดไป
ความคิดเห็น 0