ปีเตอร์ ชิฟฟ์(Peter Schiff) นักลงทุนสายทองคำและผู้วิจารณ์บิตคอยน์(BTC)ชื่อดัง ออกมาโจมตีตลาดคริปโตอีกครั้ง หลังราคาบิตคอยน์ทะยานแตะระดับ 122,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 16.95 ล้านบาท)โดยระบุว่าการพุ่งขึ้นครั้งนี้เป็น “การหลอกลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงของฟองสบู่ที่อาจใกล้แตก
ชิฟฟ์แสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดียว่า การที่ราคาบิตคอยน์พุ่งสูงขึ้นเกิดจาก *ความร้อนแรงของการเก็งกำไร* มากกว่าเหตุผลด้านมูลค่าที่แท้จริง โดยเขาย้ำว่ามันคือ “ปรากฏการณ์ฟองสบู่ที่ดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ให้เข้าสู่ตลาด” และเตือนว่าอาจเกิดการล่มสลายแบบโดมิโนได้หากมีจุดเปราะบางเพียงจุดเดียวในระบบ
ปัจจุบัน บิตคอยน์ขยับขึ้นอีกครั้งจากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ระดับ 121,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 16.82 ล้านบาท) ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า หากทะลุแนวต้านที่ 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 17.37 ล้านบาท) ก็อาจสร้าง *จุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์* อย่างไรก็ตาม ชิฟฟ์และนักวิเคราะห์บางส่วนเตือนว่า ความเชื่อมั่นนี้อาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะมองสถานการณ์ในมุมที่สั้นเกินไป
ชิฟฟ์ยังเปรียบเทียบระบบนิเวศของบิตคอยน์ในปัจจุบันกับโครงสร้างที่เปราะบางในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 โดยระบุว่าบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์ และกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้อง อาจมีบทบาทต่อโครงสร้างตลาดในลักษณะที่คล้ายกับธนาคารที่พึ่งพาสินทรัพย์ซับซ้อนในอดีต ซึ่งหากหนึ่งในบริษัทใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเผชิญราคาหุ้นร่วงแรง *ราคาบิตคอยน์, หุ้นที่เกี่ยวข้อง, และแรงซื้อตลาด* อาจร่วงตามกันแบบลูกโซ่ได้
ในช่วงที่ผ่านมา มีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่ถือครองบิตคอยน์ทั้งทางตรงและผ่านกองทุน ETF ซึ่งส่งผลต่อลักษณะการหมุนเวียนของเหรียญ รวมถึงมูลค่ารวมของตลาด (*Market Cap*) อย่างไรก็ตาม วิธีการถือครองแบบใหม่นี้อาจเพิ่ม *ช่องทางการส่งผ่านความเสี่ยง* เมื่อเกิดตลาดหมีหรือตลาดขาลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้ว่าตลาดจะยังคงเปี่ยมด้วยความหวังและความตื่นเต้น แต่ “ความคิดเห็น” ของชิฟฟ์ก็เตือนนักลงทุนให้กลับมาสำรวจ *แก่นแท้ของการลงทุน* อีกครั้งว่า บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าภายในจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงเครื่องทดสอบความเชื่อมั่นที่อาจพังลงในสักวันหนึ่ง
ความคิดเห็น 0