Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ปีเตอร์ ชิฟโจมตีบิตคอยน์(BTC) ยับ ชี้ไม่ใช่ทองคำดิจิทัล แถมเตือน MicroStrategy เสี่ยงล้มละลาย

Sat, 19 Apr 2025, 13:38 pm UTC

ปีเตอร์ ชิฟโจมตีบิตคอยน์(BTC) ยับ ชี้ไม่ใช่ทองคำดิจิทัล แถมเตือน MicroStrategy เสี่ยงล้มละลาย / Tokenpost

ปีเตอร์ ชิฟ(Peter Schiff) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของยูโรแพค แคปิตอล(Euro Pacific Capital) ออกมาโจมตีบิตคอยน์(BTC) อย่างรุนแรงผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อทวิตเตอร์) ในวันยื่นภาษีของสหรัฐฯ โดยใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมงในการชื่นชมทองคำและวิพากษ์วิจารณ์บิตคอยน์ รวมถึงการลงทุนของบริษัทต่าง ๆ ที่ถือครองคริปโต

ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์และทองคำที่บริหารสินทรัพย์กว่า 1 พันล้านดอลลาร์รายนี้ พุ่งเป้าการโจมตีไปที่บริษัทสแตรทิจี(Strategy) ซึ่งก็คือไมโครสแตรทิจี(MicroStrategy) เดิม เขาเตือนว่าบริษัทดังกล่าวอาจ *ล้มละลายจากการถือบิตคอยน์จำนวนมหาศาล* ถึงแม้ว่าสแตรทิจีซึ่งนำโดยไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) จะยังคงเดินหน้าซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่องเหมือนกำลังแข่งขันกับบริษัทอื่นก็ตาม

ชิฟกล่าวในการถ่ายทอดสดว่า *"บิตคอยน์ไม่ใช่ทองคำดิจิทัล แต่เป็นเพียงสินทรัพย์เสี่ยงชนิดหนึ่งเท่านั้น"* พร้อมกล่าวหาว่าการโปรโมตบิตคอยน์ว่าเป็นทองคำดิจิทัลนั้น *"เข้าข่ายหลอกลวง"* ด้วยเหตุที่พฤติกรรมราคาและลักษณะการเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับทองคำแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สนับสนุนบิตคอยน์โต้แย้งว่า พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าราคาบิตคอยน์จะเคลื่อนไหวเหมือนทองคำ แต่ชี้ให้เห็นถึง *"คุณลักษณะทางเศรษฐศาสตร์ที่คล้ายคลึงกัน"* เช่น การมีปริมาณจำกัดและแรงจูงใจจากการขุด ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนความเป็นทรัพย์สินที่มีค่าในระยะยาว

ข้อมูลผลตอบแทนยืนยันว่า บิตคอยน์ทำผลงานได้ดีกว่าทองคำอย่างชัดเจน โดย *บิตคอยน์สร้างผลตอบแทนกว่า 28,200,000% ตั้งแต่ปี 2010* ขณะที่ทองคำให้ผลตอบแทนเพียง *230% ตั้งแต่ปี 2009* เท่านั้น

ชิฟยังตั้งข้อสงสัยเพิ่มเติมว่า *“บิตคอยน์มีไว้เพื่ออะไร? ถ้ามันเป็นเพียงสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงที่ขึ้นราคาได้เร็วกว่าอย่างอื่น แล้วนั่นถือเป็นเหตุผลในการลงทุนได้หรือ?”* พร้อมเปรียบเทียบบิตคอยน์กับหุ้นเทคโนโลยี โดยระบุว่า *“อย่างน้อยหุ้นเทคก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต และเป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้จริง”*

ในอีกด้านหนึ่ง บิตคอยน์กลับแสดงให้เห็นถึง *ศักยภาพในการเป็นระบบการเงินที่ทำกำไรในแบบที่โปร่งใส ยุติธรรม และเชื่อถือได้* โดยให้บริการทางการเงินที่ผู้คนต้องการในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพในตลาดเศรษฐกิจแบบเปิด

ข้อมูลล่าสุดจากกลางเดือนเมษายน ระบุว่าราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นแล้ว *36% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน* ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ แม้จะถูกวิจารณ์อย่างต่อเนื่องก็ตาม

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1