ราคาของริปเปิล(XRP)พุ่งขึ้นกว่า 10% หลังจากข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างริปเปิลและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ยุติลงอย่างเป็นทางการ ข้อตกลงล่าสุดนี้อาจปูทางสู่ความเป็นไปได้ในการเปิด ‘ETF’ ที่อ้างอิงกับ XRP โดยบริษัทจัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่อย่างแบล็คร็อค
เมื่อวันที่ 7 ทั้งสองฝ่ายได้ยื่นเอกสารร่วมต่อศาลแสดงเจตจำนงถอนอุทธรณ์ทั้งหมด โดยการตัดสินใจดังกล่าวผ่านการโหวตภายในของ SEC ทำให้การฟ้องร้องที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปีปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ สจวร์ต อัลเดอโรตี(Stuart Alderoty) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของริปเปิลกล่าวว่า “ข้อตกลงนี้เป็นจุดสิ้นสุดอย่างเป็นทางการของคดีความที่ริเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2020” และระบุด้วยว่าทั้งสองฝ่ายจะแบกรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีแยกกัน นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือ ‘XRP ไม่ถือเป็นหลักทรัพย์’ ตามคำพิพากษาครั้งนี้
นับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของริปเปิล ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจกลายเป็น ‘บรรทัดฐานทางกฎหมาย’ ให้กับบริษัทคริปโตอื่น ๆ ที่เคยเผชิญแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ โดยทันทีหลังการประกาศ ราคาของ XRP พุ่งขึ้นกว่า 10% แตะ 3.33 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,634 บาท
อีกหนึ่งประเด็นที่ตลาดจับตามองคือ กระแสข่าวว่าแบล็คร็อคอาจกำลังพิจารณาเปิด ‘ETF แบบสปอตที่อ้างอิง XRP’ ซึ่งจะเป็นการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ต่อจากบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เนต เจราชี(Nate Geraci) ซีอีโอของโนวาดิอัสเวลธ์(NovaDius Wealth) ให้ความเห็นว่า “ที่ผ่านมาแบล็คร็อคหลีกเลี่ยง XRP ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไม่ชัดเจนในด้านกฎหมาย” แต่เมื่อสถานะทางกฎหมายของ XRP ได้รับการรับรอง “นี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับเปิดตัว ETF”
เจราชีเสริมว่า หาก ‘ไอแชร์ส์(iShares)’ แบรนด์ ETF ของแบล็คร็อคไม่รวม XRP ไว้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ก็อาจตีความได้ว่า BTC และ ETH ยังเป็นสองโทเคนหลักที่ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์ลงทุนแบบสถาบัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงที่ไม่เห็นด้วย โดยเอริก บัลชูนาส(Eric Balchunas) นักวิเคราะห์ ETF แห่งบลูมเบิร์ก ชี้ว่า แบล็คร็อคไม่แสดงความสนใจผลิตภัณฑ์ ETF ที่นอกเหนือจาก BTC และ ETH มากนัก อีกทั้งผลตอบแทนของ ETF สกุลเงินอื่นอาจ ‘เผชิญข้อจำกัดในการเติบโต’ แม้เจ้าตัวจะย้ำว่าเป็นเพียง ‘ความคิดเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัว’ ไม่ใช่ข้อมูลเชิงลึก
กระนั้นก็ตาม บัลชูนาสก็ประเมินว่า ความเป็นไปได้ที่ ‘XRP ETF ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้’ อาจสูงถึง ‘95%’ โดยให้เหตุผลว่าความชัดเจนของกฎระเบียบกำลังเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงส่งผลดีกับ XRP เท่านั้น แต่ยังเปิดทางให้เหล่า ‘อัลท์คอยน์’ อื่น ๆ เข้าสู่ระบบการเงินแบบถูกต้องตามกฎหมาย
ดังนั้น ข้อตกลงระหว่างริปเปิลกับ SEC ไม่ใช่แค่จุดสิ้นสุดของคดีฟ้องร้อง แต่ยังอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะนิยามใหม่ต่อโครงสร้างทางกฎหมายของวงการคริปโตในสหรัฐ สำหรับ XRP ETF แม้ยังไม่ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็ถูกมองว่าเป็น ‘แผนงานที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นจริง’ ในอนาคตอันใกล้นี้
ความคิดเห็น 0