บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญแรงกดดันด้านราคาอีกครั้ง โดยมีความเป็นไปได้สูงว่าจะร่วงลงต่ำกว่าแนวรับที่ *8 หมื่นดอลลาร์* หลัง *ทรัมป์* ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวน โดยคริปโตก็ไม่รอดจากแรงขายเช่นกัน เนื่องจากยังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม *ทรัพย์สินเสี่ยง*
เมื่อวันที่ 28 ราคาบิตคอยน์ตกลงมากกว่า 2.5% มาอยู่ที่ราว *85,100 ดอลลาร์* หรือประมาณ *12.4 ล้านบาท* ซึ่งสะท้อนผลกระทบจากแผนของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่เตรียมเรียกเก็บ *ภาษีนำเข้ารถยนต์ 25%* ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน สถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่กระทบตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ยังลากตลาดคริปโตทั้งระบบให้ปรับตัวลงตาม
ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.33% ที่ 5,693.31 จุด ดัชนีแนสแดกลดลง 94 จุด หรือ 0.53% และดาวโจนส์ก็อ่อนตัว 0.37% ขณะเดียวกัน มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดหดตัวลงถึง 2.6% ภายในหนึ่งวัน ความเคลื่อนไหวจากฝ่ายบริหารของทรัมป์ที่ได้ตั้งกำแพงภาษีอย่างหนักทั้งกับสินค้าจากเม็กซิโก, แคนาดา และจีน ทำให้ *ความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้า* ปะทุขึ้นอีกครั้ง
*The Kobeissi Letter* นักวิเคราะห์ตลาดทุนเปิดเผยว่า “หลายคนมองว่า 2 เมษายนคือจุดสิ้นสุดของความไม่แน่นอน แต่ข้อเท็จจริงอาจเป็นตรงกันข้าม คือ ‘การเริ่มใหม่ของสงครามการค้า’” โดยเขาเผยด้วยว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา *บริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ สูญเสียมูลค่าตลาดถึง 4 แสนล้านดอลลาร์* หรือประมาณ *584 ล้านล้านวอน*
บิตคอยน์ยังคงมีภาพลักษณ์เป็นสินทรัพย์ความเสี่ยง และมักเคลื่อนไหวควบคู่กับตลาดการเงินดั้งเดิม ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม 2020 ที่ตลาดทรุดจากโควิด-19 บิตคอยน์ก็ร่วงแรงตามมาเช่นกัน ปัจจุบัน สถิติแสดงว่า *บิตคอยน์มีค่าสหสัมพันธ์กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ สูงถึง 0.88*
บางนักเทรดเริ่มคาดว่าในการปรับฐานครั้งนี้ บิตคอยน์อาจทะลุแนวรับ 8 หมื่นดอลลาร์ลงมา โดย *AlphaBTC* นักวิเคราะห์คริปโตเผยว่า “บิตคอยน์หลุดระดับราคาเปิดประจำสัปดาห์ และกำลังทดสอบแนวรับระดับเดือนที่ *84,300 ดอลลาร์* หากแนวนี้แตก การปรับฐานอาจเร่งตัวขึ้น”
ด้าน *Daan Crypto Trades* นักเทรดชื่อดัง วิเคราะห์ว่า "ช่วงเวลาก่อนถึงวันที่ 2 เมษายน ความผันผวนตามข่าวจะสูงมาก" พร้อมเสริมว่า *บิตคอยน์จะยังไม่สามารถยืนยันทิศทางการฟื้นตัวได้จนกว่าจะยืนเหนือระดับ 9 หมื่นดอลลาร์* ได้อย่างมั่นคง
*ไมเคิล ฟาน เดอ โพเป(Michaël van de Poppe)* ผู้ก่อตั้ง MN Capital ก็ออกมาเตือนว่า บนกราฟทางเทคนิคมีสัญญาณอ่อนตัวในเฟสแรก และหากราคาหลุด *ระดับ 84,000 ดอลลาร์* บิตคอยน์อาจต้องย่อตัวลงไปยังช่วง *78,000–80,000 ดอลลาร์*
ตลอดเดือนที่ผ่านมา บิตคอยน์เพิ่มขึ้นเพียง 1.6% สวนทางกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยมหภาค โดยเฉพาะ *ความขัดแย้งทางการค้า* ที่ยังคงต่อเนื่อง นักลงทุนจึงจับตามองแนวรับเทคนิคและเหตุการณ์เชิงนโยบายสำคัญอย่างใกล้ชิด ความคิดเห็น: ระยะสั้น บิตคอยน์อยู่ในจุดที่ต้องจับตาอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกและการเมืองของสหรัฐฯ
ความคิดเห็น 0